สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกล่าวเมื่อวันศุกร์ว่าการโจมตีของอิสราเอลในเมืองราฟาห์ ชายแดนของฉนวนกาซาไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เพราะจะทำให้ชาวปาเลสไตน์สูญเสียชีวิตจำนวนมาก “สิ่งนี้จะต้องไม่ได้รับอนุญาตให้เกิดขึ้น” นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า อิสราเอลจะรุกต่อไปด้วยความไม่พอใจต่อขบวนการฮามาสที่ปกครองฉนวนกาซา ซึ่งรวมถึงราฟาห์ ซึ่งเขาอธิบายว่า "ฐานที่มั่นสุดท้ายของกลุ่มฮามาส" คาดว่ามีผู้คนประมาณ 1.5 ล้านคนถูกอัดแน่นอยู่ในราฟาห์ ซึ่งอยู่บริเวณชายขอบทางใต้สุดของวงล้อมติดกับชายแดนอียิปต์ โดยส่วนใหญ่หนีออกจากบ้านไปทางเหนือเพื่อหนีการโจมตีของอิสราเอล อิสราเอลจะรุกต่อไปด้วยการรุกต่อกลุ่มฮามาส รวมถึงเข้าไปใน เมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา แม้จะมีแรงกดดันจากนานาประเทศให้หยุดมากขึ้น นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี เนทันยาฮูให้คำมั่นว่าจะทำลายกลุ่มฮามาสหลังจากนักรบของพวกเขาโจมตีทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. คร่าชีวิตผู้คนไป 1,200 รายและลักพาตัว 253 ราย ตามข้อมูลของอิสราเอล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขปาเลสไตน์ประเมินว่า มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 30,000 คนในฉนวนกาซาระหว่างการโจมตีในเวลาต่อมา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์และประณามทั่วโลก “มีความกดดันจากนานาชาติและกำลังเพิ่มมากขึ้น แต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแรงกดดันระหว่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น เราต้องปิดอันดับ เราต้องยืนหยัดร่วมกันเพื่อต่อต้านความพยายามที่จะหยุดสงคราม” เขากล่าว
@ISIDEWITH1ปี1Y
หากรัฐบาลใช้เหตุผลในการปฏิบัติการทางทหารโดยอ้างถึงการป้องกันตัวเอง เราควรขีดเส้นแบ่งระหว่างการป้องกันและความก้าวร้าวไว้ที่ไหน?
@ISIDEWITH1ปี1Y
คุณคิดว่าควรให้คุณค่าอะไรกับชีวิตมนุษย์คนเดียวในช่วงสงคราม?
@ISIDEWITH1ปี1Y
เป็นไปได้ไหมที่จะบรรลุสันติภาพด้วยกำลังทหาร แม้ว่ามันจะนำไปสู่การสูญเสียชีวิตครั้งใหญ่ก็ตาม?