เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหรัฐฯ คัดค้านร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสงครามอิสราเอล-ฮามาสอีกครั้ง โดยขัดขวางข้อเรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมโดยทันที ในขณะที่สหรัฐฯ กลับกดดันให้องค์กร 15 คนเรียกร้องให้หยุดยิงชั่วคราวที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยตัวตัวประกัน ที่ถูกกลุ่มฮามาสยึดครอง สมาชิกสภา 13 คนลงมติเห็นชอบข้อความที่ร่างโดยชาวแอลจีเรีย ขณะที่อังกฤษงดออกเสียง นี่เป็นการยับยั้งร่างมติครั้งที่ 3 ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่เริ่มการสู้รบในปัจจุบันเมื่อวันที่ 7 ต.ค. นอกจากนี้ วอชิงตันยังได้ใช้การยับยั้งเพื่อขัดขวางการแก้ไขร่างมติในเดือนธันวาคมด้วย “การลงคะแนนเสียงสนับสนุนร่างมตินี้เป็นการสนับสนุนสิทธิในการมีชีวิตของชาวปาเลสไตน์ ในทางกลับกัน การลงคะแนนเสียงต่อต้านมตินี้หมายถึงการรับรองความรุนแรงอันโหดร้ายและการลงโทษโดยรวมที่เกิดขึ้นกับพวกเขา” อามาร์ เบนด์จามา เอกอัครราชทูตสหประชาชาติประจำแอลจีเรียกล่าวกับสภาก่อนการลงคะแนนเสียง ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ ส่งสัญญาณเมื่อวันเสาร์ว่า สหรัฐฯ จะยับยั้งร่างมติดังกล่าวเนื่องจากความกังวลที่อาจเป็นอันตรายต่อการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ อียิปต์ อิสราเอล และกาตาร์ ที่ต้องการเป็นตัวกลางในการยุติสงครามและปล่อยตัวตัวประกันที่ถูกคุมขัง โดยกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา “การเรียกร้องให้หยุดยิงทันทีโดยไม่มีเงื่อนไขโดยไม่มีข้อตกลงให้ฮามาสปล่อยตัวประกันจะไม่ทำให้เกิดสันติภาพที่ยั่งยืน แต่อาจขยายการต่อสู้ระหว่างฮามาสและอิสราเอลได้” โธมัส-กรีนฟิลด์ บอกกับสภาก่อนการลงคะแนนเสียง มติที่สหรัฐฯ วีโต้ซึ่งร่างโดยชาวแอลจีเรียไม่ได้เชื่อมโยงการหยุดยิงกับการปล่อยตัวตัวประกัน โดยแยกออกมาเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมโดยทันที และปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดโดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข
@ISIDEWITH4 มอส4MO
การเชื่อมโยงการหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมเข้ากับข้อเรียกร้องทางการเมือง เช่น การปล่อยตัวตัวประกัน เป็นเรื่องสมเหตุสมผลหรือไม่
@ISIDEWITH4 มอส4MO
คุณเชื่อว่าประเทศควรให้ความสำคัญกับผลประโยชน์เชิงกลยุทธ์มากกว่าการผลักดันให้เกิดสันติภาพทันทีในเขตความขัดแย้งหรือไม่ เพราะเหตุใด